เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (26 พฤษภาคม) สภาอิสลามปากีสถานองค์กรตามรัฐธรรมนูญซึ่งมีหน้าที่ให้คำปรึกษากับรัฐสภาว่ากฎหมายใดๆสอดคล้องกับหลักคำสอนของอิสลามหรือไม่ ได้เสนอร่างกฎหมายคุ้มครองสตรีโดยให้สิทธิสามีในการทุบตีภรรยาได้หากภรรยาไม่เชื่อฟัง

สภาอิสลามเสนอว่า สามีควรได้รับการอนุญาตให้สามารถทุบตีภรรยาได้ “เบาๆ” หากภรรยาฝ่าฝืนคำสั่ง หรือปฏิเสธที่จะแต่งกายตามความต้องการของสามี รวมถึงกรณีที่ภรรยาปฏิเสธที่จะร่วมเพศโดยไม่มีเหตุรับรองทางศาสนา หรือภรรยาไม่ยอมอาบน้ำหลังร่วมเพศ หรือเมื่อมีประจำเดือน

สภาอิสลามยังเสนอให้การลงโทษผู้หญิงด้วยการทุบตีสามารถทำได้หากหญิงรายนั้นไม่ยอมสวมฮิญาบ มีปฏิสัมพันธ์กับคนแปลกหน้า พูดเสียงดังเกินไปจนคนแปลกหน้าอาจได้ยิน และให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้อื่นโดยไม่ได้รับความยินยอมจากสามี

The Express Tribune สื่อปากีสถานซึ่งมีโอกาสได้เห็นร่างดังกล่าวระบุว่า ร่างฉบับนี้มีทั้งหมด 163 มาตรา นอกจากจะอนุญาตให้ชายสามารถใช้ความรุนแรงให้กับหญิงแล้ว ยังกำหนดข้อห้ามอีกมากมายมิให้ผู้หญิงเข้าไปข้องเกี่ยว เช่น ห้ามการเรียนร่วมกันของชายหญิงหลังระดับประถมศึกษา ห้ามผู้หญิงเป็นทหารหน่วยรบ ห้ามผู้หญิงต้อนรับผู้แทนต่างชาติ ห้ามพยาบาลหญิงดูแลผู้ป่วยชาย และห้ามผู้หญิงทำงานในด้านการโฆษณา

ร่างของสภาอิสลามฉบับนี้ร่างขึ้นหลังสภาอิสลามปฏิเสธกฎหมายคุ้มครองสตรีจากความรุนแรงซึ่งผ่านการรับรองโดยสภาท้องถิ่นรัฐปัญจาบ (PPWA) เพื่อส่งเสริมหลักความเท่าเทียมทางเพศ แต่สภาอิสลามมองว่ากฎหมายฉบับดังกล่าวขัดต่อหลักอิสลาม ซึ่งหลังจากนี้ทางสภาอิสลามจะส่งร่างของตนให้สภารัฐปัญจาบพิจารณาต่อไป

รายงานของเอเอฟพีอ้างว่า สื่อหลายสำนักและโลกออนไลน์ในปากีสถานต่างออกมาล้อเลียนข้อเสนอดังกล่าวของสภาอิสลาม เช่น Dawn หนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดฉบับหนึ่งในปากีสถานได้ลงบทความล้อเลียนว่า มีของหลายอย่างที่คนสามารถทุบตีได้นอกเหนือจากภรรยาตัวเองเช่น ไข่ ก้นขวดซอสมะเขือเทศ หรือจะร้องเพลง “Beat it” เพลงดังของไมเคิล แจ็คสัน แทนก็ยังได้

คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งปากีสถานยังออกมาประณามร่างของสภาอิสลามว่าเป็นเรื่อง “เหลวไหล” พร้อมเรียกร้องให้ยุบสภาคลั่งศาสนาหัวรุนแรงนี้ทิ้งเสีย

“มันเป็นเรื่องยากที่จะเข้าใจว่า คนสติดีที่ไหนจะคิดได้ว่าการยุยงหรือให้ความชอบธรรมเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อเชื้อเชิญให้มีการใช้ความรุนแรงกับผู้หญิงในปากีสถาน” คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนปากีสถานระบุ

ทั้งนี้ ข้อเสนอของสภาอิสลามมิได้มีผลผูกพันให้รัฐสภาต้องปฏิบัติตาม ก่อนหน้านี้ข้อเสนอของสภาอิสลามเคยถูกวิจารณ์อย่างหนักมาแล้วเช่นกรณีข้อเสนอในปี 2013 ที่สภาฯเสนอว่า หลักฐานทางพันธุกรรม (DNA) ไม่อาจรับฟังได้ในคดีข่มขืน แต่ให้ใช้หลักอิสลามที่ระบุว่า เหยื่อที่รอดการทารุณทางเพศมาได้มีหน้าที่ที่จะต้องหาประจักษ์พยานให้ได้ 4 คนเพื่อยืนยันข้อกล่าวหาของตนเอง

ข้อมูลจาก:

1. CII proposes husbands be allowed to ‘lightly beat’ defying wives, The Express Tribune (http://tribune.com.pk/…/name-protection-cii-bill-proposes-…/)

2. Pakistani media mocks clerics who say men can ‘lightly beat’ wives, AFP (http://www.pri.org/…/pakistanis-hit-back-clerics-say-men-ca…)